อยากผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ แต่อายุที่มากขึ้นผิวก็ยิ่งหย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา การยกกระชับใบหน้า จึงเป็นโปรแกรมยอดนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยการยกกระชับผิวหน้า และลำคอมีหลาหหลายวิธีมาก ทั้งวิธีที่ไม่ต้องพักฟื้น และการผ่าตัดแก้ไขปัญหา รวมถึงวิธีที่สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน บทความนี้ Dr. Bank Clinic จะมาแชร์ว่าวิธีการยกกระชับหน้ามีกี่แบบ ? และมีอะไรบ้าง ? พร้อมตอบข้อสงสัยว่าทำแบบไหนดีกว่ากัน ?
10 วิธียกกระชับใบหน้า เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
1. ทาสกินแคร์ช่วยยกกระชับใบหน้า
เริ่มต้นกันที่วิธียกกระชับใบหน้าที่ง่ายที่สุด และสามารถทำได้ทุกวัน คือการทาครีมบำรุง หรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยยกกระชับหน้า และลดริ้วรอยทั่วใบหน้าและลำคอ แต่วิธีที่ต้องอาศัยการทำที่สม่ำเสมอ และบ่อยครั้ง และจำเป็นต้องทำต่อเนื่องตั้งแต่ 3-4 เดือนขึ้นไป ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น แต่ก็เป็นวิธีที่สามารถทำคู่กับหัตถการ และวิธีอื่นได้
2. ร้อยไหมช่วยยกกระชับใบหน้า
สำหรับท่านที่มีผิวหน้าที่หย่อนคล้อยบริเวณกระเปาะแก้ม ร่องแก้มหรือที่เรียกกันว่า ร่องน้ำหมาก คิ้วและหนังตาที่ตก เนื่องจากอายุที่มากขึ้น การร้อยไหมเป็นวิธีการยกกระชับใบหน้าที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยจะใช้ไหมเงี่ยงใส่เข้าไปในผิวหนังชั้นไขมัน โดยตัวเงี่ยงจะเกี่ยวชั้นไขมันและดึงขึ้นไป ทำให้ใบหน้าดูกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากการร้อยไหม อาจมีอาการบวมช้ำ และริ้วไหม หลังจากทำได้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ก็จะเห็นผลลัพธ์กับใบหน้าที่ดูยกกระชับ และเยาว์วัย
3. ฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า
ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นการฉีดสารเติมเต็มไขมันที่สลายไปตามธรรมชาติ หรือทดแทนมวลกระดูกก็จริง แต่ยังสามารถใช้ฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้าได้อีกด้วย อายุที่มากขึ้น ผิวก็เริ่มหย่อนคล้อยเป็นธรรมดา สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้บริเวณใต้ตา ร่องแก้ม แก้มที่ตอบ และร่องน้ำหมาก เพื่อเติมเต็มร่องที่ลึกให้ใบหน้าดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อยกกระชับหน้าให้ดูเป๊ะได้ยิ่งขึ้น
4. ฉีดโบท็อกซ์ยกกระชับใบหน้า
มาที่การฉีดโบท็อกซ์ เพื่อยกกระชับใบหน้ากัน หลัก ๆ แล้วสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้
- Dermolift คือ การฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า โดยจะเป็นการฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังตื้น ๆ ไล่ไปตามไลน์กรอบหน้า ทำให้ผิวหนังบริเวณกรอบหน้าเกิดการหดตัว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ใบหน้าดูกระชับขึ้น จะเห็นผลลัพธ์หลังจากทำไปแล้ว 2-3 สัปดาห์
- Nefertiti Lift คือ การฉีดโบท็อกซ์ยกกระชับใบหน้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศอเมริกา โดยเป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปบริเวณกล้ามบริเวณที่ห่อหุ้มคอ และแก้มส่วนล่าง ทำให้ผิวที่ดูหย่อนคล้อย ดูกระชับขึ้น โดยกล้ามเนื้อบริเวณที่จะดึงขึ้นทำให้หน้ายก แก้มไม่หย่อน มุมปากจะยกสูงขึ้น และยังทำให้หน้าดูเรียวขึ้นอีกด้วย
5. HIFU ช่วยยกกระชับใบหน้า
HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) คือการยิงคลื่นอัลตราซาวด์ และจะแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนลงไปใต้ผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณนั้น และทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น หลังจากทำ HIFU ยกกระชับใบหน้า ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน หลังจากทำไปประมาณ 1-3 เดือน
6. ULTHERA ยกกระชับใบหน้า
การยกกระชับใบหน้าด้วย Ulthera หลักการทำงานจะค่อนข้างคล้ายกับการทำ HIFU โดยคลื่นเสียงความถี่สูงยิงลงสู่ผิวชั้น SMAS ทำให้ผิวหดตัวและดูยกกระชับขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน ซึ่งช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี และเต่งตึงยิ่งขึ้น การทำอัลเทอร์ร่าจะแตกต่างจากากรทำไฮฟู่ ด้วยระบบ Visualizer หัวยิงที่สามารถมองเห็นชั้นผิวหนังของคนไข้ ทำให้แพทย์สามารถประเมิน และยิงคลื่นอัลตราซาวน์ได้แม่นยำ และตรงจุดกว่า
7. THERMAGE ยกกระชับใบหน้า
Thermage เป็นวิธีการยกกระชับใบหน้า โดยอาศัยเทคโนโลยีพลังงานคลื่นความถี่วิทยุขั้วเดียว (Monopolar RF) ปล่อยพลังงานความร้อนส่งสู่ผิวหนังชั้น SMAS ไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูกระชับ เรียบเนียน และดูเรียวขึ้น สามารถทำได้ทั่วหน้า ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหางตา แก้ม กรอบหน้า หมดปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไร้ริ้วรอย
8. การผ่าตัดดึงหน้า
การยกกระชับใบหน้าด้วยการผ่าตัดดึงหน้าจัดเป็นการศัลยกรรม เพื่อปรับโครงสร้างของกล้ามเนื้อบนใบหน้า โดยจะเป็นการดึงกล้ามเนื้อ เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ และไขมันให้กลับไปดูในตำแหน่งที่เหมาะสม ตัดผิวหนังส่วนเกิดที่เกิดจากความหย่อนคล้อย ให้ดูเต่งตึง และกระชับขึ้น วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติการเป็นคีลอยด์ เนื่องจากเป็นการผ่าตัด และอาจอาการบาดเจ็บของเส้นประสาทได้ ควรต้องเข้ารับการผ่าตัดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
9. นวดยกกระชับใบหน้า
วิธีการนวดเพื่อยกกระชับใบหน้า เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ และยังผ่อนคลายอีกด้วย เป็นวิธีที่สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ควบคู่กับการทาสกินแคร์ยกกระชับ สามารถนวดกดจุด โดยเริ่มที่บริเวณหน้าแก้ม ร่องมุมปาก ร่องแก้ม โดยใช้นิ้วกดลงไปเบา ๆ จุดละ 4-5 ครั้ง และหมุนประมาณ 3-4 รอบ จากนั้นนำฝ่ามือนวดจากบริเวณคางขึ้นไปจนถึงหลังหู 4-5 ครั้ง นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อคอร์สนวดหน้าตามคลินิกได้อีกด้วย
10. โยคะยกกระชับใบหน้า
โยคะยกกระชับใบหน้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้เองที่บ้านเช่นกัน และใช้เวลาทำไม่นานอีกด้วยซึ่งจะเรียกท่านี้ว่า The Satchmo พองแก้มให้มีลมสลับไปมาระหว่างด้านซ้าย และด้านขวา ทำซ้ำ 3 ครั้ง และท่าเป่าลูกโป่ง เป็นการเป่าลมเข้าและออก เพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม สามารถทำร่วมกับวิธีอื่นได้ง่าย ๆ เลย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการยกกระชับใบหน้า
ยกกระชับหน้าด้วยวิธีไหนดีที่สุด ?
ถ้าถามว่าการยกกระชับหน้า ควรทำวิธีไหนถึงจะดีที่สุด ? ต้องตอบเลยว่า ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว และสภาพผิว และการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถเข้าพบแพทย์และขอรับคำปรึกษาได้เลย
ยกกระชับใบหน้าคงผลลัพธ์ได้นานแค่ไหน ?
แต่ละวิธีก็จะมีระยะเวลาคงผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองทั้งก่อนทำ และหลังจากเข้ารับหัตถการยกกระชับใบหน้าแล้วด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดี หน้าที่เรียว สวย เป๊ะ ต้องคำนึงถึงการบำรุงผิว อาหารการกิน และปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย
ทำไมควรเลือกยกกระชับใบหน้าที่ Dr. Bank Clinic ?
สนใจยกกระชับใบหน้ามาที่ Dr. Bank Clinic ครอบคลุมทุกโปรแกรม เช่น Lipo Lift Exilis Elite Lift Ultra HIFU Thermage FLX Morpheus 8 รวมถึงโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ ด้วยนวัตกรรมและเครื่องที่ทันสมัย กับบริการโปรแกรมยกกระชับหน้าให้คุณมั่นใจ จะเดินไปไหนใครก็ต้องทักว่าสวย
Dr.Bank Clinic คลินิกความงามด้านผิวหนังและเลเซอร์ ดำเนินการด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณความงาม และเวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ให้คุณได้มั่นใจในเครื่องเลเซอร์ที่ได้คุณภาพระดับมาตรฐานสากล
พร้อมบริการเลเซอร์รักษาหลุมสิว เลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์บกกระชับผิว เลเซอร์รักษาฝ้า กระ เลเซอร์สลายไขมันและดูดไขมัน รวมทั้งบริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ วิตามินผิว และเมโสทรีทเมนต์ ด้วยตัวยาคุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองการองค์การอาหารและยาทั้งในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา ยุโรปและเกาหลี เพราะความปลอดภัยของคนไข้สำคัญที่สุด