ในยุคที่การดูแลรูปร่างไม่ใช่เพียงเรื่องความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยรวม เทคโนโลยีการสลายไขมันแบบไม่ผ่าตัดจึงกลายมาเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะการสลายไขมันด้วยความเย็น (Coolsculpting) และการสลายไขมันด้วยความร้อน (Warmsculpting) ที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันเฉพาะจุดโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดดูดไขมัน ทั้งสองวิธีนี้มีหลักการทำงานและข้อดีที่แตกต่างกัน Dr. Bank จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยีทั้งสองแบบ พร้อมทั้งเปรียบเทียบทั้งข้อดีข้อเสียว่า แบบไหนดีกว่ากันไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้เลย
สลายไขมันด้วยความเย็น (Cool Sculpting) คืออะไร
การสลายไขมันด้วยความเย็นเป็นนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีความเย็นระดับต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเพื่อทำลายเซลล์ไขมัน โดยกระบวนการนี้จะทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัวที่อุณหภูมิประมาณ -11 องศาเซลเซียส จนเซลล์ไขมันเกิดการตายแบบโปรแกรม (Apoptosis) และถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลืองตามธรรมชาติ
เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นจะมีหัวดูด (Vacuum) ที่ประกบดูดกับผิวหนังบริเวณที่ต้องการลดไขมัน แล้วส่งความเย็นลงไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งแต่ละครั้งสามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้ประมาณ 20 – 30% ข้อดีของการรักษาด้วยวิธีนี้ คือไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีดยาชา ไม่เกิดรอยแผลและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำทันที โดยที่ Dr. Bank Clinic เราใช้เครื่อง Cooltech Define เทคโนโลยีใหม่จากประเทศสเปน ช่วยกำจัดไขมันได้แทบทุกส่วนของร่างกาย
สลายไขมันด้วยความร้อน (Warm Sculpting) คืออะไร
การสลายไขมันด้วยความร้อนเป็นนวัตกรรมที่ใช้พลังงานความร้อนในการทำลายเซลล์ไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปพร้อมกัน ทำให้นอกจากจะช่วยลดปริมาณไขมันแล้ว ยังช่วยให้ผิวกระชับมากขึ้นด้วย
เทคโนโลยีความร้อนที่ใช้มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งคลื่นวิทยุ (RF) แสงอินฟราเรด (IR) หรือแสงเลเซอร์ ซึ่งจะส่งพลังงานความร้อนไปที่เซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดการทำลายเซลล์ไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
สลายไขมันด้วยความเย็น vs ความร้อน ต่างกันยังไง
ถ้าหากถามว่าแล้วทั้งสองวิธีนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างนั้น ต้องบอกเลยว่า ทั้งสองวิธีนี้มีเป้าหมายเดียวกัน คือการลดไขมัน แต่จะแตกต่างกันที่กลไกการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ลองมาดูความแตกต่างกันให้ชัดเจนยิ่งขึ้นกัน ดังนี้
หลักการทำงาน
การสลายไขมันด้วยความเย็น (Coolsculpting) ใช้หลักการ Cryolipolysis คือการทำให้เซลล์ไขมันตายด้วยความเย็น โดยความเย็นจะเข้าไปทำลายเฉพาะเซลล์ไขมันโดยไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง จากนั้นร่างกายจะค่อย ๆ กำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบขับถ่ายธรรมชาติ ใช้เวลาประมาณ 1 – 3 เดือนจึงจะเห็นผลชัดเจน
ส่วนการสลายไขมันด้วยความร้อน (Warmsculpting) ใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุหรือเลเซอร์เข้าไปทำลายเซลล์ไขมัน และในขณะเดียวกันก็กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเกิดการตึงกระชับไปพร้อมกับการลดไขมัน ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่หลังทำเสร็จ และชัดเจนขึ้นภายใน 2 – 8 สัปดาห์
ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำ
การสลายไขมันด้วยความเย็นจะให้ผลลัพธ์เฉพาะในการลดปริมาณไขมัน โดยสามารถลดไขมันได้ประมาณ 20 – 30% ต่อครั้งในบริเวณที่ทำ แต่จะไม่ช่วยในเรื่องของความกระชับของผิวหรือเซลลูไลท์ ผลลัพธ์จะค่อย ๆ เห็นชัดขึ้นหลังจากทำประมาณ 1 – 3 เดือน เนื่องจากร่างกายต้องใช้เวลาในการกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้ว
ในขณะที่การสลายไขมันด้วยความร้อนให้ผลลัพธ์ทั้งการลดไขมันและการกระชับผิวไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยร่วมด้วย ผลลัพธ์จะเห็นได้เร็วกว่า โดยจะเริ่มเห็นความกระชับของผิวได้ทันทีหลังทำ และเห็นการลดลงของไขมันชัดเจนภายใน 2 – 8 สัปดาห์
สลายไขมันด้วยความเย็น และความร้อน แบบไหนดีกว่ากัน
การเลือกระหว่างการสลายไขมันด้วยความเย็น (Coolsculpting) หรือความร้อน (Warmsculpting) ขึ้นอยู่กับปัญหาและเป้าหมายของแต่ละบุคคล หากคุณมีปัญหาเรื่องไขมันสะสมเฉพาะจุดที่ดื้อต่อการออกกำลังกายและต้องการกำจัดเซลล์ไขมันอย่างถาวร การสลายไขมันด้วยความเย็นอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากคุณมีทั้งปัญหาไขมันและผิวหย่อนคล้อย ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้เร็ว การสลายไขมันด้วยความร้อนอาจเหมาะสมกว่า
อย่างไรก็ตามที่ Dr. Bank Clinic มีโปรแกรมสลายไขมันทั้ง Cool Tech สลายไขมันด้วยความเย็นลบ และ Exilis Elite Body ลดสัดส่วนและไขมันส่วนเกิน ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เราพร้อมออกแบบและวางแผนการรักษาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และเพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษา
รีวิวสลายไขมันด้วยความเย็น (Cool Sculpting) ที่ Dr. Bank Clinic
รีวิวสลายไขมันด้วยความร้อน (Warm Sculpting) ที่ Dr. Bank Clinic
สรุปบทความ
การสลายไขมันทั้งด้วยความเย็น (Coolsculpting) และความร้อน (Warmsculpting) ต่างเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบไม่ผ่าตัด ทั้งสองวิธีมีหลักการทำงานและข้อดีที่แตกต่างกัน โดย Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันโดยเฉพาะ ส่วน Warmsculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการทั้งลดไขมันและกระชับผิวไปพร้อมกัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัญหาและเป้าหมายของแต่ละบุคคล
ที่ Dr. Bank Clinic มีทั้งโปรแกรมสลายไขมันด้วยความเย็นและความร้อนที่ได้มาตรฐาน ด้วยเครื่องมือทันสมัยและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำโปรแกรมที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของคุณโดยเฉพาะ ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหน คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ หรือสามารถปรึกษากับคุณหมอแบงค์ได้ฟรี เพียงแค่แอดไลน์ @dr.bankclinic คุณหมอตอบเองทุกเคส!
