โปรแกรมเลเซอร์รักษาสิว กู้ผิวสวย จัดการสิวให้ผิวเรียบเนียน

สิวฮอร์โมน สิวอักเสบ เป็นปัญหาผิวหน้าที่สร้างความกังวลให้กับหลายคน แม้จะรักษาสิวให้หายแล้ว แต่ก็ยังทิ้งรอยแดงและรอยดำจากสิวไว้ ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ ส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน วันนี้ Dr.Bank Clinic มีโปรแกรมเลเซอร์รักษาสิว ช่วยกู้ผิวหน้าคุณให้กลับมาดูเรียบเนียน แต่ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับวิธีการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า สาเหตุของการเกิดสิว คืออะไร และเลเซอร์รักษาสิว คืออะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองได้อย่างมั่นใจ

สาเหตุของการเกิดสิว 

สิวสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย พฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต และเชื้อแบคทีเรีย ดังนี้ 

1. สิวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นหรือระหว่างรอบเดือนของผู้หญิง ซึ่งส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไปจนเกิดจากอุดตันและทำให้เกิดสิวขึ้นมา 
2. สิวที่เกิดจากพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดสะสม หรือการทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่ถูกวิธี ล้วนกระตุ้นให้เกิดสิวได้ทั้งนั้น
3. สิวที่เกิดจากแบคทีเรีย โดยทั่วไปแล้วเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า P.acnes จะอาศัยอยู่บนผิวหนังตามธรรมชาติ เมื่อเกิดการอุดตันของรูขุมขน ควบคู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ล้างหน้าไม่สะอาด กินอาการที่น้ำตาลมากเกินไป ก็จะไปเพิ่มจำนวนของเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้และก่อให้เกิดการอักเสบ นำไปสู่การเกิดสิวอักเสบ 

เลเซอร์รักษาสิว คืออะไร 

เลเซอร์รักษาสิว คือการรักษาสิวรูปแบบหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ โดยจะใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะยิงลงสู่ชั้นผิว เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P. acnes ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดสิว พร้อมทั้งกำจัดไขมันที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนให้หลุดออกไป 

นอกจากนี้ เลเซอร์ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ซึ่งช่วยให้ผิวหน้ากระชับ เรียบเนียน และลดการเกิดรอยแผลเป็นจากสิวได้อีกด้วย วิธีการนี้จึงไม่เพียงแต่รักษาสิวที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดสิวในอนาคตและฟื้นฟูสภาพผิวโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย 

เลเซอร์รักษาสิวมีกี่ประเภท

เนื่องจากสิวมีหลายประเภท และแต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน การเลเซอร์รักษาสิวจึงสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้

เลเซอร์รักษาสิวอุดตัน

สิวอุดตันส่วนใหญ่มักเกิดจากไขมันที่อุดตันอยู่บริเวณรูขุมขน ทำให้เกิดเป็นตุ่มนูนขึ้นบนผิวหนัง สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

• สิวอุดตันหัวขาว คือสิวอุดตันหัวปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูนอยู่ใต้ผิวหนัง และสิวประเภทนี้มีโอกาสพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบได้ 
• สิวอุดตันหัวดำ คือสิวอุตันหัวเปิด โดยจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเป็นจุดสีดำ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการอุดตันของความมันส่วนเกิน หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนใบหน้า จึงเกิดสิวชนิดนี้ขึ้น  

โดยการเลเซอร์รักษาสิวอุดตันด้วยเลเซอร์นั้น สามารถช่วยกำจัดการอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้เกิดแผลหรือรอยแผลเป็น นอกจากนี้ ยังช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ป้องกันการเกิดสิวซ้ำและฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น

เลเซอร์รักษารอยแดงจากสิว

รอยแดงจากสิวเกิดมาจากการอักเสบของผิวหนัง เช่น สิวอักเสบ สิวหัวหนอง หลังจากที่สิวยุบตัวลง การอักเสบนี้ทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ส่งผลให้เกิดรอยแดงที่มองเห็นได้ชัดเจน รอยแดงเหล่านี้อาจคงอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการอักเสบและการดูแลผิวหลังเกิดสิว

เพราะฉะนั้น การเลเซอร์รักษารอยแดงจากสิว แสงเลเซอร์ที่ยิงลงสู่ชั้นผิวจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมผิว พร้อมทั้งลดการอักเสบและช่วยให้เส้นเลือดฝอยที่ขยายตัวกลับสู่สภาวะปกติเร็วขึ้น ส่งผลให้รอยแดงจางลงอย่างเห็นได้ชัด และช่วยให้ผิวหน้ากลับมามีสีสม่ำเสมอ

เลเซอร์รักษารอยดำจากสิว

รอยดำจากสิวเกิดจากการที่เม็ดสีเมลานินถูกกระตุ้นให้ผลิตมากเกินไปในบริเวณที่เคยเกิดสิว โดยเฉพาะหลังจากการอักเสบหรือการบาดเจ็บของผิวหนัง กระบวนการนี้เรียกว่า Post-Inflammatory Hyperpigmentation (PIH) ซึ่งมักพบได้บ่อยในผู้ที่มีผิวสีเข้มหรือผิวที่ไวต่อแสงแดด รอยดำเหล่านี้อาจคงอยู่เป็นเวลานานหลายเดือนถึงหลายปีหากไม่ได้รับการรักษาสิวที่เหมาะสม

เลเซอร์รักษารอยดำจากสิว จะใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง เพื่อทำลายเม็ดสีเมลานินที่เกินมา โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้สีผิวหน้ากลับมาสม่ำเสมอ แลดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เลเซอร์รักษาหลุมสิว 

หลุมสิวเกิดจากการสูญเสียเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอันเป็นผลมาจากการอักเสบรุนแรงของสิว โดยปกติแล้ว หลุมสิวจะพัฒนามาจากการเกิดสิวหัวหนอง หรือสิวหัวช้างที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม เมื่อสิวยุบลง คอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ในชั้นผิวหนังก็ถูกทำลายไป จึงทำให้เกิดเป็นรอยบุ๋มหรือหลุมบนผิวหน้า ซึ่งมักเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยากด้วยวิธีการรักษาทั่วไป

ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาหลุมสิวที่เห็นผลชัดเจน คือการเลเซอร์รักษาหลุมสิว โดยจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนัง ช่วยให้ผิวหนังที่บุ๋มหรือเป็นหลุมค่อย ๆ ยกตัวขึ้น ฟื้นฟูผิวที่เป็นหลุมสิว และช่วยให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน ดูสุขภาพดีและดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

ข้อดีของการเลเซอร์รักษาสิว

• ไม่เจ็บปวดและไม่ต้องพักฟื้นนาน การรักษาสิวด้วยเลเซอร์เป็นวิธีเห็นผลลัพธ์ค่อนข้างชัดเจน และไม่ค่อยมีผลข้างเคียงมาก ทำให้ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย 
• เห็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจน การเลเซอร์รักษาสิว เป็นการจัดการต้นตอการเกิดสิวโดยตรง ทำให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนหลังการรักษาเพียงไม่กี่ครั้ง 
• รักษาได้ครอบคลุม เป็นโปรแกรมการรักษาที่ค่อนข้างครอบคลุม สามารถแก้ปัญหาสิว จนกระทั่งรอยแดง รอยดำและหลุมสิวได้ในคราวเดียวกัน
• ปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย เลเซอร์รักษาสิวดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูงและมีผลข้างเคียงน้อยมาก
• ช่วยป้องกันการเกิดสิวในอนาคต นอกจากรักษาสิวที่มีอยู่ เลเซอร์ยังช่วยปรับสมดุลของผิว และลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ในอนาคตอีกด้วย 

โปรแกรมเลเซอร์รักษาสิว เหมาะสำหรับใครบ้าง 

• ผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง รักษาด้วยวิธีทั่วไปแล้วไม่หาย
• ผู้ที่มีรอยแดง รอยดำ หรือรอยหลุมสิว
• ผู้มีผิวหน้ามัน และรูขุมขนค่อนข้างกว้าง
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเลเซอร์รักษาสิว

การเตรียมตัวที่ดีก่อนเข้ารับการเลเซอร์รักษาสิวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ดังนี้

1. เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิว และแพทย์จะพิจารณาเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลที่สุด
2. หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinoids, AHA หรือ BHA อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนรับการเลเซอร์รักษาสิว
3. หลีกเลี่ยงการถอนขน และสครับผิวบริเวณที่หน้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการรักษา เพื่อป้องกันการเกิดอาการระคายเคือง 
4. หลีกเลี่ยงการเผชิญแดดแรงโดยตรง ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ
5. หากมีโรคประจำตัว หรือแพ้ยาควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ 

วิธีการดูแลตัวเองหลังเลเซอร์รักษาสิว

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ควรทาครีมกันแดด SPF 50+ เป็นประจำและสวมหมวกหรือร่มเมื่อออกแดด
2. งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์รุนแรง เช่น สครับ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol AHA หรือ BHA อย่างน้อย 1 สัปดาห์
3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว 
4. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้ความร้อน เช่น การออกกำลังกาย ซาวน่า โยคะร้อน อบไอน้ำ อย่างน้อย 24 – 48 ชั่วโมงหลังการเลเซอร์
5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ