รู้สึกว่าหน้าไม่เรียว ไหนจะริ้วรอยแห่งวัยที่กำลังตามมาอีก หลายคนที่กำลังเจอปัญหาผิวเหล่านี้ คงมีความสนใจที่จะลองฉีดโบท็อกเป็นครั้งแรกแน่นอน เพราะสาามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ได้อย่างตรงจุด และเห็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นก็จำเป็นต้องไปทำความรู้จักกันก่อนว่า โบท็อกซ์ คืออะไร ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรบ้าง เพื่อผลลัพธ์ที่ตรงกับใจของคุณมากที่สุด ในบทความนี้กัน
โบท็อก คืออะไร
โบท็อกซ์ (Botox) คือสารโปรตีนบริสุทธิ์ที่สกัดจากแบคทีเรียชนิดพิเศษที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ซึ่งมีคุณสมบัติของโบท็อกซ์จะเข้าไปจับกับปลายประสาทที่ควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดตัวลง ทำให้กล้ามเนื้อไม่เกร็ง ริ้วรอยก็ค่อย ๆ จางลง และยังช่วยปรับขนาดกล้ามเนื้อ ช่วยให้ใบหน้าของคุณดูเรียวกระชับขึ้นอีกด้วย
นอกจากจะใช้ลดเลือนริ้วรอย และปรับขนาดใบหน้าแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาอาการทางการแพทย์ เช่น ไมเกรนและ Office syndrome ได้อีกด้วย
ฉีดโบท็อกตรงไหน ช่วยอะไรบ้าง
การฉีดโบท็อกสามารถช่วยแก้ไขปัญหาความงามได้หลากหลาย โดยตำแหน่งที่นิยมฉีดมีดังนี้
- บริเวณกราม ช่วยลดขนาดกรามให้เล็กลง ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าดูเพรียวสวยเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่หรือต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
- การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอย สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยได้หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นรอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตาและร่องระหว่างคิ้ว ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น อ่อนเยาว์ขึ้น
- รักแร้ โดยจะช่วยลดเหงื่อและกลิ่นกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมาก หรือมีกลิ่นตัวรบกวน
- ปีกจมูก ช่วยลดขนาดปีกจมูกให้เล็กลง ทำให้จมูกดูโด่งเด่นชัดขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
- หางตา ฉีดโบท็อกซ์ยกหางตา ช่วยแก้ไขปัญหาตาตก ทำให้ดวงตาดูสดใส เปล่งประกาย และดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
- ต้นแขนและน่อง ช่วยปรับขนาดต้นแขนหรือน่องให้เล็กลงได้ ทำให้แขนและขาดูเรียวสวย ได้สัดส่วนมากขึ้น
- รักษาไมเกรน ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรัง และช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดความถี่ของการเกิดอาการปวด
ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล
การฉีดโบท็อกให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันตามตำแหน่งที่ฉีดและลักษณะของปัญหาที่ต้องการแก้ไข โดยทั่วไปแล้วจะมีระยะเวลา ดังนี้
- การฉีดโบท็อกเพื่อลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์ โดยจะรู้สึกถึงความตึงบริเวณที่ฉีดหลังจากฉีดไปแล้ว 3 วัน
- การฉีดโบท็อกลดกรามและลดน่อง จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะเห็นผลชัดเจน แต่จะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของกล้ามเนื้อและการตอบสนองของแต่ละบุคคล
- การฉีดโบท็อกรักแร้เพื่อลดเหงื่อและกลิ่นกาย จะเห็นผลชัดเจนที่ 1 เดือนหลังการฉีด
ฉีดโบท็อกไม่เห็นผล เกิดจากอะไร
หากฉีดโบท็อกไปแล้ว รู้สึกว่าไม่เห็นผลลัพธ์หรือผลลัพธ์ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับคุณภาพของโบท็อกและวิธีการฉีด เช่น การผสมตัวยาที่เจือจางเกินไปทำให้ความเข้มข้นไม่เพียงพอ การใช้จำนวนยูนิตน้อยเกินไปไม่เหมาะกับขนาดของกล้ามเนื้อหรือการฉีดผิดตำแหน่งทำให้ตัวยาไม่สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การใช้โบท็อกที่ไม่ได้คุณภาพหรือของปลอม รวมถึงวิธีการดูแลตนเองหลังทำหัตถการก็อาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อกเช่นกัน หรือบางกรณีอาจเกิดจากการฉีดบ่อยเกินไปจนเกิดภาวะดื้อยา
อย่างไรก็ตาม เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการ ควรทำหัตถการนี้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
โบท็อก อยู่ได้นานแค่ไหน
โบท็อกจะให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 4 – 8 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ เนื่องจากร่างกายจะทำลายโปรตีนที่จับกับโบท็อกซ์ช้ากว่า และตำแหน่งที่ฉีดก็มีผลต่อระยะเวลาการออกฤทธิ์ โดยกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างแขน ไหล่หรือน่อง จะมีระยะเวลาออกฤทธิ์สั้นกว่ากล้ามเนื้อมัดเล็กอย่างกราม หน้าผากหรือหางตา ดังนั้น หากถามว่า Botox ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน ควรเข้ารับหัตถการทุก ๆ 6 – 8 เดือนหลังจากทำครั้งแรก เพื่อคงประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ไว้
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก
- เลือกใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยควรตรวจสอบใบรับรองและมาตรฐานการรักษาให้ชัดเจน
- ตรวจสอบแหล่งที่มาของโบท็อก โดยควรเป็นผลิตภัณฑ์แท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และควรสังเกตการผสมยาต่อหน้าเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการเจือจางมากเกินไป
- ศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเกี่ยวกับจำนวนยูนิตที่เหมาะสม โดยไม่ควรฉีดเกิน 300 ยูนิตต่อครั้ง
- ควรประคบเย็นระหว่างการฉีด เพื่อช่วยลดการไหลเวียนของเส้นเลือดบริเวณรอบๆ จุดฉีด
- งดการทานยาต้านการอักเสบและยาละลายลิ่มเลือดก่อนการฉีดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก
หลังการฉีดโบท็อก การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีช่วยให้โบท็อกสามารถทำอย่างได้อย่ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสามารถทำตามได้ ดังนี้
- ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบในช่วง 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของตัวยา
- งดการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 1 เดือน ฃ
- ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าร้อนหรือแดง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การออกกำลังกายหนัก การอบซาวน่าหรือการแช่น้ำร้อน เพราะความร้อนอาจทำให้ตัวยาสลายเร็วขึ้น
และสำหรับผู้ที่ฉีดโบท็อกบริเวณกราม ควรเคี้ยวหมากฝรั่งสลับซ้ายขวาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ตัวยากระจายตัวได้ดี
สรุปบทความ
การฉีดโบท็อกเป็นทรีตเมนต์ความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากด้วยประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาผิวหน้าและรูปหน้าที่หลากหลาย ที่ Dr. Bank Clinic เราให้ความสำคัญกับการใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์คุณภาพสูงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่ไว้วางใจได้สำหรับการฉีดโบท็อกครั้งแรก Dr. Bank Clinic พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตลอดการรักษา